เรื่องสั้น มติ ชน เรื่อง เสียง / ประกวดเรื่องสั้นมติชนอวอร์ด : วัชรินทร์ จันทร์ชนะ
ให้เช่าบ้านเดี่ยวชั้นเดียวสร้างใหม่สี่ห้องนอนอยู่ขวามือของแยกถนน ห่างจากสี่แยกประมาณครึ่งกิโลเมตร ห่างจากตัวอำเภอ 7 กิโลเมตร ผมเป็นครูที่แพ็คของเช่าเป็นครั้งสุดท้าย แต่ฉันรู้สึกโชคดีที่ได้ห้องทางซ้ายสุด ไม่ควรมีกำแพงข้างเพื่อนบ้านทั้งสองข้าง ห้องข้างๆ ถูกจองไว้แต่ยังไม่ได้ย้าย ห้องถัดไปเป็นผู้หญิงสองคนในวัยยี่สิบต้นๆ ทำงานที่ร้านสะดวกซื้อและร้านกาแฟที่ปั๊มน้ำมันบนถนนสายหลักสู่จังหวัด เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกจากบ้านผมประมาณครึ่งกิโลเมตร
สองคูหาสุดท้ายเป็นของฐิตา เพ็ญ เจ้าของบ้านเช่า เปิดเป็นร้านขายของชำ หน้าร้านมีโต๊ะปูนลายไม้สี่ชุด ขายกาแฟตอนเช้าและบางคนดื่มเบียร์ในตอนเย็นอีกด้านของถนนเป็นทุ่งกว้าง มีสวนยางพาราและสวนปาล์มในบริเวณใกล้เคียง หกหรือเจ็ดก้าวจากห้องของฉันทางด้านขวามือคือสวนกล้วย ปลูกเป็นสองแถวแยกชายแดนในทุ่งนา ชมและจินตนาการถึงมหาเศรษฐีที่ทุ่มเงินหลายพันล้านปลูกกล้วยในเมืองหลวง สารละลายกล้วย ทางโรงเรียนต้องข้ามสี่แยกไปอีกฝั่ง จากสี่แยกสองกิโลเมตร ฉันเคยเช็คใน Google ว่าจะจ่ายค่ารถเมื่อไหร่ กิโลเมตรละสี่บาท พรรณนา โวหาร
ดังนั้นฉันจึงทำการทดสอบเป็นแพ็คเกจ ทั้งภาคภูมิใจและผิดหวังในเวลาเดียวกัน อิจฉาผู้ที่สอบผ่านแปดถึงเก้าครั้ง เจ็ดคนถูกเรียกในรอบแรก เรื่องสั้น มติ ชน มีโรงเรียนประถมเพียงแห่งเดียว มีเด็กให้เลือกน้อยกว่าร้อยคน อันดับที่แปดในการสอบจะถูกคัดเลือกเป็นอันดับแรกในรอบต่อไป รอบครูเกษียณ มีโรงเรียนมัธยมให้เลือกมากมายโรงเรียนของฉันมีลูกเจ็ดสิบคน ส่วนเกินส่วนใหญ่มาจากโรงเรียนเอกชนในเขต สอนทั้งในชั้นอนุบาลและประถม มีครู 6 คน รวมกรรมการ 7 คน นอกจากผู้กำกับแล้ว ยังมีผู้ชายอีกเพียงคนเดียว อีกคนหนึ่งเป็นครูหญิงและคนในท้องถิ่นซึ่งไม่ได้ย้ายไปอยู่ที่ใดในวัยสี่สิบห้าสิบ ผู้อำนวยการอายุ 35 ปีรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ครูชายมาจัดกระเป๋าและเป็นเด็กสบายตัว
โรงเรียนมีครูเต็มชั้นเพราะองค์การบริหารส่วนตำบลอนุบาลจ้างครู เมื่อโรงเรียนเปิด ครูเริ่มฝึกจนเกือบขาดเรียนและขาดเรียน บางวันกรรมการมีการประชุมหลายครั้ง เขาต้องส่งอาจารย์แทน ไปหลายครั้ง จนเดือนแรกแทบไม่เห็นหน้าลูกศิษย์เลย เรื่องสั้น มติ ชน ไม่น่าแปลกใจที่ชาวบ้านต้องการส่งลูกไปโรงเรียนเอกชน ฉันมีลูกที่ควรไปโรงเรียนเอกชนด้วย แม้ว่าบางคนจะบอกว่าพวกเขาไม่สามารถสอนให้กับครูที่ไม่ผ่านการทดสอบได้ เสาร์ อาทิตย์ ฉันฝึกในจังหวัดที่ห่างจากโฮมสเตย์ของฉันประมาณหกสิบกิโลเมตร ขึ้นรถตู้และลงที่สี่แยก กลับถึงบ้านประมาณ 6 โมง อาบน้ำและนอนอย่างเหนื่อยล้า นั่งและฝึกหนักกว่าทำงาน เมื่อได้ฟังสถาบันการศึกษาแล้ว ก็รู้สึกหดหู่ใจมากขึ้น
ฉันผล็อยหลับไปก่อนที่จะลืมตาขึ้นสู่ความมืดมิด มีเสียงรบกวนจากผนังห้องที่อยู่ติดกัน คลื่นเสียงมีคุณสมบัติของการเลี้ยวเบนผ่านเพดาน ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา หมายเลขดิจิตอลบอกเวลาสี่สิบห้า นอนลงและฟังโดยไม่เปิดไฟ เป็นเสียงที่คนทำหรือปล่อยให้ทำอย่างนั้นไม่แน่ใจ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เสียงของชายคนนั้นฟังดูเหมือนสัตว์ป่า เรื่องสั้น มติ ชน เสียงผู้หญิงประมาณสิบนาที เสียงเงียบไปครู่หนึ่ง ฉันก็เลยลุกไปเปิดไฟ ฉันออกจากบ้านตอนหกโมงครึ่ง
ครูใหญ่บอกให้ครูประจำมาโรงเรียนก่อนนักเรียนคนแรก มองไปอีกห้องที่ประตูยังปิดอยู่ บ้านผู้หญิงสองคนประตูเปิดอยู่ ที่ทำงานผ่านร้านป้าเพ็ญไม่กล้าเข้าไปดูข้างในเลย สามคนกำลังนั่งดื่มกาแฟ ผมยิ้มทักทายพวกเขา ก่อนจะซื้อแป้งทอดและปิ้งขนมปังปิ้งที่ตลาดเพื่อทานกับกาแฟเป็นอาหารเช้าที่โรงเรียน วันที่ไม่ซื้อของจากกระป๋อง ทั้งวันเมื่อฉันว่างที่จะสอนลูกๆ ของฉัน ฉันก็ไม่สามารถจดจ่อกับคนอื่นได้ คิดถึงเสียงราตรี
ฉันออกจากโรงเรียนเวลา 16.30 น. แม้ว่าเด็กๆ จะกลับบ้านเวลา 15.30 น. ไปร้านสะดวกซื้อเพื่อหาอะไรกิน สวัสดี ฉันอยากเห็นผู้หญิงที่มีดวงตากลมโตเป็นหนึ่งในสองเพื่อนบ้านที่ไม่รู้จัก แต่รอยยิ้มเผยให้เห็นถึงความพิเศษที่ซ่อนอยู่ พอกลับถึงบ้านก็ยังพยายามอยู่หน้าบ้านซึ่งต่างจากทุกวัน ยืมสายยางป้าเพ็ญมาล้างรถมอไซค์ เรื่องสั้น มติ ชน เป้าหมายที่แท้จริงคือการสังเกตคนในห้องถัดไปโดยที่ประตูยังปิดอยู่ ล้างรถเสร็จก็ซื้อเบียร์นั่งในรถที่จอดรับลมเย็นๆ
จากทุ่งหน้าบ้านไม่ร่วมวงคนกินดื่มที่หน้าร้าน เบียร์สองกระป๋องถูกกินไปแต่ไม่มีอะไรขยับ ยุงเข้ามาในบ้าน ฉันเผลอคุยโทรศัพท์ เผลอหลับ ไม่อาบน้ำ ตื่นมากลางดึก เลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างสามถึงสี่โมงเย็น ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจอาบน้ำ แปรงฟัน และนอน ฉันนอนไม่หลับ ฉันวางโทรศัพท์ไว้บนหน้าจอนานจนปวดตา ตื่นเช้าต้องรีบไปอาบน้ำไปโรงเรียน วันนั้นทั้งวันก็ยังเหมือนเดิม เวลาว่าง หมกมุ่นอยู่กับเสียงนั้น
ฉันจะออกจากโรงเรียนตามปกติ กินข้าวเย็นที่ปั๊ม เดินเข้าร้านสะดวกซื้อเมื่อเห็นหน้าคุณแล้วยิ้มให้สาวข้างๆ “นี่เป็นผลิตภัณฑ์ส่งเสริมการขาย หนึ่งฟรีคุณสนใจไหม” เขาหยิบถุงขนมปัง น้ำเสียงของฉันดูอาย ในทางกลับกัน ฉันรู้สึกตื่นเต้น ตะกุกตะกัก พูดไม่ได้ แต่ส่ายหัว ฉันเดิน แต่ฉันคิดว่าฉันเจ็บ ก่อนเข้าบ้าน สำรวจห้องเวทย์มนตร์ ประตูยังปิดอยู่ ฉันไปเปิดประตูหลัง ห้องลึกลับหลังประตูปิด ไม่มีวี่แววของผู้คนอาศัยอยู่ที่นั่น
ผู้หญิงสองคนมองไปที่หลังบ้านและเห็นเสื้อผ้าและชุดชั้นในที่แขวนอยู่ ฉันอาบน้ำ นอน อ่านหนังสือ และเล่นโทรศัพท์ แต่จิตใจของฉันกระสับกระส่าย เก้าโมงครึ่ง ฉันง่วงนอน ฉันลุกขึ้นปิดไฟและเดินกลับไม่ได้ มีเสียงของการเคลื่อนไหวในห้องเวทย์มนตร์ นอนพักสักครู่ได้ยินเสียงดังมาจากผนังห้องนอน นอกจากเสียงต้นฉบับ ฉันพยายามจับเสียงของคำ “ไม่ตลก” เสียงผู้หญิงพูด “ทำได้เหมือนคนทั่วไปหรือเปล่า” ก่อนไปโรงเรียน
ฉันมองไปที่ห้องลึกลับที่ประตูยังปิดอยู่ ห้องนี้เปิดสำหรับสองสาว ฉันผ่านร้านหน้าเพ็ญ ซื้อข้าวต้มและแท่งแป้งทอด อุ่นเครื่องเล็กน้อยด้วยไมโครเวฟที่โรงเรียน อยากถามเรื่องห้องลึกลับ แต่มีบางอย่างติดอยู่ในใจ ตอนนี้ฉันสอนทั้งวันทั้งในเวลาของฉันเองและในนามของผู้เฒ่าคนหนึ่งที่เข้าร่วมการฝึกอบรม ฉันกลับบ้านเร็วกว่าปกติ เหนื่อยและอยากเปลี่ยนเวลาไปร้านสะดวกซื้อมีคำที่หายไป “พวกเขาบ้าไปแล้วที่จะพูดซ้ำตัวเอง แต่คาดหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง” ไม่ชัดเจนว่าใครพูด หลายคนกล่าวว่า “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” เรื่องสั้น มติ ชน